American Fiction 2023 เต็มเรื่อง
ตัวอย่างหนัง American Fiction 2023

American Fiction เข้าชิงออสการ์ใน 5 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชาย (เจฟฟรีย์ ไรท์), นักแสดงสมทบชาย (สเตอร์ลิง เค. บราวน์), ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (จากนิยายเรื่อง Eraser ของ เพอร์ซิวัล เอฟเวอเร็ตต์)
เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ American Fiction จะคว้าชัยชนะดูเหมือนจะยาก แต่การได้เข้าชิงก็ถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นแล้ว
สาขาที่มีโอกาสชนะสูงสุด (และได้รับรางวัลมาแล้ว) คือบทภาพยนตร์ดัดแปลง เขียนโดย คอร์ด เจฟเฟอร์สัน ซึ่งยังรับหน้าที่ผู้กำกับในหนังเรื่องนี้ด้วย (American Fiction เป็นผลงานกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกของเขา)
คอร์ด เจฟเฟอร์สัน เติบโตมาในวงการเขียนบท โดยเฉพาะการเขียนบทซีรีส์ ผลงานที่โดดเด่นของเขา ได้แก่ ซีรีส์ Master of None, The Good Place และ Watchmen
แม้ผมจะไม่มีโอกาสอ่านนิยายต้นฉบับ แต่เมื่อได้ชมภาพยนตร์ที่ดัดแปลงแล้ว ก็พบว่าเรื่องราวถูกถ่ายทอดออกมาอย่างชาญฉลาดและน่าติดตาม
เนื้อหาของหนังถูกเล่าผ่านมุมมองของตัวละครหลัก เทโลเนียส เอลลิสัน หรือที่รู้จักในชื่อเล่นว่า ‘มังค์’ ซึ่งเป็นชายวัยกลางคนผิวดำที่มีอาชีพเป็นอาจารย์สอนวรรณกรรมในมหาวิทยาลัยแอล.เอ. และยังเป็นนักเขียนนิยายที่ผลงานมักได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จในด้านยอดขาย เพราะนิยายของเขามักเกี่ยวข้องกับเทพปกรณัมคลาสสิกที่ถูกดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัย แต่เนื้อหาไม่ตรงตามความคาดหวังของผู้อ่านในเรื่องวรรณกรรมแนวแอฟริกัน-อเมริกัน
นิยายของมังค์ถูกวิจารณ์ว่า “ไม่ดำพอ” เพราะไม่เล่าเรื่องราวที่ผู้อ่านคุ้นเคยหรือคาดหวัง เช่น ชีวิตที่ย่ำแย่ในย่านเสื่อมโทรม การเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อาชญากรรม และการเหยียดเชื้อชาติ
มังค์รู้สึกรังเกียจนิยายเกี่ยวกับคนดำที่มักถูกนำเสนอในรูปแบบเดิมๆ ซ้ำซาก หนังได้บอกเล่าเรื่องราวของเขาอย่างลึกซึ้งและซับซ้อน โดยพาเราเข้าสู่โลกของนักเขียนที่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดทางสังคมและวรรณกรรม และในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนในชีวิตส่วนตัวและความสัมพันธ์ภายในครอบครัว
บทสรุปของหนังทำให้เรื่องราวที่เล่าไปตลอดทั้งเรื่องยิ่งน่าทึ่งและลึกซึ้งมากขึ้น ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่ผสมผสานระหว่างอารมณ์ขัน ดรามา และการเสียดสีอย่างแยบยล ทำให้ American Fiction เป็นภาพยนตร์ที่ไม่เพียงแต่ท้าทายขอบเขตของวรรณกรรมแอฟริกัน-อเมริกัน แต่ยังท้าทายความคิดของผู้ชมในการพิจารณาเรื่องราวเกี่ยวกับความจริงและความสมจริงในชีวิตอีกด้วย